1.2 ทำไมต้องวางแผนทางการเงิน(Why Financial Planning)
ตอนนี้จะขอพูดถึงอิสรภาพทางการเงิน(Financial freedom)ครับ
หลายปีมานี้ เราคงได้มีโอกาสได้ยินคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" กันอยู่บ่อยๆนะ
ทีแรกผมก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรเหมือนกัน แต่ได้ยินแล้ว เอาไปพูดกับคนอื่นแล้วรู้สึกเท่ห์ดี 555
ซึ่งหลังจากได้อ่านหนังสือเล่มโน้นเล่มนี้หลายเล่มอยู่
ผมก็พอจะสรุปได้ดังนี้ครับ
อิสรภาพทางการเงิน หมายถึง การที่เรามีรายได้มากพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆโดยที่เราไม่ต้องทำงาน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงนึกออกง่ายๆตื้นๆก็คือ ผมนำเงินไปฝากธนาคารไว้
แล้วก็นำเงินดอกเบี้ยจากเงินฝากนั้น มาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ นึกออกแค่นั้น
(ถ้าเราเกิดมารวยเลย พ่อแม่มีเงินเตรียมไว้ให้ 20,000,000 บาท นำเงินไปฝากแบงค์
ร้อยละ 2 ต่อปี ได้ดอกปีละ 400,000 บาท ตกเดือนละ 3 หมื่นกว่าบาท
ซึ่งถ้าเราใช้พอ ก็เรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วครับ ง่ายๆเท่านี้เอง
แต่เชื่อเถอะ คนมีเงินระดับ ยี่สิบล้าน ค่าใช่จ่ายเดือนละสามสี่หมื่นคงเอาไม่อยู่หรอก)
แต่เมื่อสักเดือนก่อนผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือชื่อ "เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย"
ของคุณ จักรพงษ์ เมษพันธุ์ "Money coach"
เค้าได้ให้นิยามไว้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวครับ
"การมีชีวิตที่มีอิสระทางความคิด โดยไม่มี 'เงิน' เป็นเครื่องพันธนาการ
ทำอะไร ตัดสินใจอะไร ไม่ต้องเอา 'เงิน' เป็นที่ตั้ง ไม่เลือกทำงานบางอย่างเพราะได้เงินเยอะ
เกี่ยงงานบางอย่างเพราะได้เงินน้อย หรือไม่ทำเลย เพราะไม่ได้เงิน" ประมาณนี้ครับ
สนใจอ่านเต็มๆ ไปหาซื้อได้เลยครับผม
แต่ในบทนี้ขอพูดถึง Financial Freedom ในนิยามแรกละกันนะครับ
เพราะมันสามารถมองเห็นเป็นตัวเลข คำนวณได้ วางแผนได้
ก่อนอื่นขออธิบายคำศัพท์ 2 คำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กันหน่อยครับ
1. Active Income : รายได้ที่เกิดจากการทำงาน เอาแรงกาย แรงใจ สมอง สองมือ เวลาไปแลกมา
หยุดทำเมื่อไหร่ก็ไม่มีรายได้
2. Passive Income : รายได้ที่เกิดจากออกแรงลงทุนในสินทรัพย์บางอย่าง, ค่าลิขสิทธิ์, ดอกเบี้ยเงินฝาก
เงินปันผลจากหุ้น ฯลฯ คือเป็นรายได้ที่ไม่ต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อไปแลกมานั่นเอง
ยกตัวอย่าง เราไปลงทุนซื้อคอนโดห้องหนึ่ง ปล่อยเช่าได้เดือนละ 20,000 บาท โดยเราต้องผ่อนชำระธนาคารเดือนละ 15,000 บาท เงินส่วนที่เหลือ 5,000 บาทนั่นคือ Passive Income ครับ
ซึ่งลักษณะของสินทรัพย์ (Asset) ที่จะก่อให้เกิด Passive Income ได้ก็ได้แก่
1. Performing asset : Asset ที่ตัวมันทำงาน
2. Growth asset ; Asset ที่เติบโต
3. Income Paying asset : Asset ที่จ่ายรายได้ได้
เพื่อความเข้าใจเบื้องต้นขอยกตัวอย่าง วิธีการคำนวณแบบง่ายๆไม่ซับซ้อนเรื่อง Passive Income ประกอบความเข้าใจครับ
ยกตัวอย่าง
หลังเกษียณ ผมต้องการ มีรายได้ 20,000 บาท/เดือน สำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันทั่วไป
หากผมมีเงินเก็บ 5,000,000 บาท ต้องหาทางลงทุนเพื่อให้มีผลตอบแทนอัตราเท่าไหร่ ??
ต้องการ 20,000 บาท/เดือน = 240,000 บาท/ปี
ดังนั้นผลตอบแทน = 240,000/5,000,000 = 4.8%
นั่นคือเราต้องหา"เครื่องมือ"บางอย่าง มาทำให้ทรัพย์สินของเรา ทำผลตอบแทน 4.8% ให้ได้
ส่วนจะเป็นอะไรนั้นก็ติดตามกันต่อไปครับ
จะเห็นว่าเรื่องนี้มีตัวแปรอยู่ 3 ตัว
1. ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ :
- ถ้าข้อนี้เรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนยิ่งต่ำเท่าไหร่ การมีอิสรภาพทางการเงินก็จะมีทางเกิดขึ้นง่ายเท่านั้น
ดังนั้นช่วงที่ยังหนุ่มสาว พยายามก่อหนี้น้อยๆนะจ๊ะ
2. เงินเก็บที่สามารถนำมาสร้าง Passive Income ได้ :
- วางแผนทางการเงินตั้งแต่อายุน้อยๆจะทำให้อะไรๆเป็นไปได้ง่ายขึ้นครับ
3. ความสามารถในการหาผลตอบแทนจากสินทรัพย์นั้น
- รีบศึกษาหาความรู้เรื่อง"การลงทุน"ในสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ
จะทำให้ทราบว่า การลงทุนรูปแบบใด สามารถ ทำผลตอบแทนมากน้อย เท่าไหร่
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=SqhWZQU_h4U
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น